JASเด้งแรงปันผล-กำไรงาม

Published on 2016-01-26   By โพสต์ทูเดย์

 โพสต์ทูเดย์ JAS อวดกำไร 1.57 หมื่นล้านบาท แจกปันผล 30 สตางค์ สูงตามคาดในปี 2558 เตือนระมัดระวังลงทุนหุ้น
          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เปิดเผยว่า ในปี 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.57 หมื่นล้านบาท  เพิ่มขึ้น 380.42% จากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 3,270.85 ล้านบาท กำไรที่สูงมากมาจากกำไรพิเศษที่ขายสินทรัพย์เข้ากองทุน จำนวน 1.32 หมื่นล้านบาท ขณะที่กำไรปกติจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2,919 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 4  มีกำไรสุทธิ 1,050 ล้านบาท เติบโต 18.64% หรือ 165 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 885 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันปีก่อน
          อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 บริษัทได้บันทึกสำรองการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 127 ล้านบาท บันทึกสำรองหนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) และบริษัทย่อย จำนวน 223 ล้านบาท โดย TTTBB มีการเปลี่ยนการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ที่มียอดค้างชำระจากเดิม 6 เดือน เป็น 3 เดือน  รวมถึงบริษัทมีภาระภาษี 64 ล้านบาท และบันทึกสำรองประมาณการหนี้สินตามแผนฟื้นฟูกิจการเพิ่มขึ้น 12 ล้านบาท
          บริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินงานในปี 2558 มีจำนวน 1.45 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 1.24 หมื่นล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่มาจาก TTTBB ที่มีลูกค้ามาใช้บริการของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ เพิ่มขึ้น  3.43 แสนราย หรือ 38% ทำให้สิ้นปีมีลูกค้าทั้งสิ้น 2.01 ล้านราย
          สำหรับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ไตรมาส 4 มีรายได้รวม 1,284 ล้านบาท และมีสินทรัพย์สุทธิจากการดำเนินงาน (NAV) เพิ่มขึ้น 1,833 ล้านบาท จากไตรมาส 3 ที่มี NAV เพิ่มขึ้นจำนวน 1,160 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 58%
          คณะกรรมการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,140 ล้านบาท ด้านราคาหุ้น JAS พุ่งขึ้นแรงในภาคบ่ายของวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยปิดที่ 3.10 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 3.33%
          ทั้งนี้ ทั้งข่าวกำไรพุ่งขึ้นแรงและเงินปันผลสูง เป็นสิ่งที่ตลาดรับทราบกันมาแล้วหลังจากบริษัทแจ้งกำไรสุทธิไตรมาสแรกถึง 12,771 ล้านบาท เพราะมีกำไรพิเศษดังกล่าว ขณะเดียวกัน JAS ยังมีความเสี่ยงเรื่องแหล่งเงินทุนในการลงทุนให้บริการ 4จี จึงแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนเช่นเดิม