กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน กังวลมากไป กดหุ้นถูก ปันผลเยี่ยม

Published on 2016-01-18   By ข่าวหุ้น

          * ความกังวลว่า JAS จะขายหุ้นเพื่อนำมาจ่ายค่าใบอนุญาต 4G กดราคาหุ้นต่ำสุดตั้งแต่เข้ามาซื้อขายในตลาดฯ
          * แต่มีข้อกำหนดว่า JAS ต้องคงการถือกองทุนฯ JASIF ในสัดส่วน 33.3% ภายในเวลา 3 ปี จึงไม่น่ากังวล 
          * ส่วนข่าวบวกคือ ใกล้ประกาศงบปี 58 และ จะจ่ายปันผลรอบสุดท้ายคาดอัตราผลตอบแทน 2.4%-2.5% ส่วนปี 59 ปีนี้ คาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลจะไม่ต่ำกว่า 10% อีกทั้งยังมีโอกาสจะได้เงินลดทุนอีก
          * แนะนำซื้อ ประเมินราคา พื้นฐานเป็น 10.42 บาท ด้วยวิธี DDM ราคาปิดมีส่วนเพิ่ม 23% เราเห็นว่าการลงทุนใน JASIF ยังจะปลอดภัยไปอีกในปี 59-60 ตามข้อกำหนดกองทุนฯ ด้าน P/NAV ต่ำกว่ากลุ่มที่ 0.8 เท่า
          * ความกังวลกดราคาหุ้น ราคากองทุน JASIF ปรับตัวลงทำสถิติ ต่ำสุดตั้งแต่เริ่มเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 16 ก.พ.58 เพราะความกังวลในเรื่องที่บริษัทแม่คือ JAS รุกเข้าทำธุรกิจ 4G โดยผ่านบริษัทย่อยคือ แจสโมบาย บอร์ดแบนด์ โดยเฉพาะอยู่ในช่วงการจ่ายค่าใบอนุญาตในงวดที่ 1 ประมาณ 8 พันล้านบาท และมีอีก 3 งวด ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าจะเป็นประมาณ 15 ม.ค.58 นี้ ทำให้ต้องหาเงินจำนวนมากผ่าน JASIF ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ขายหุ้น JASIF ที่ถืออยู่ 33.33% บางส่วนหรือ ให้ JASIF ไปกู้และ นำมาปล่อยกู้ให้กับ แจส โมบาย บอร์ดแบนด์ อีกทอดหนึ่ง เป็นต้น
          * แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น นั่นคือตามข้อสัญญาในกองทุนฯ คือ JAS ต้องถือหุ้น JASIF ในสัดส่วนอย่างน้อย 1 ใน 3 ภายในช่วง 3 ปีแรก และอย่างน้อยต้องถือ 19% ตั้งแต่ปี ที่ 4-6 ดังนั้นความเสี่ยงจะเริ่มตั้งแต่ปีที่ 4 เป็นต้นไปมากกว่า ส่วนในเรื่องที่จะให้ JASIF ไปปล่อยกู้ให้ กับ แจส โมบาย บอร์ดแบนด์ เพื่อจ่ายค่าใบอนุญาต 4G นั้นทำไม่ได้ เพราะวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุนคือ ระดมทุนเพื่อซื้อโครงข่ายใยแก้วนำแสงหรือสินทรัพย์อื่นๆ มาบริหารเท่านั้น
          * ข่าวบวกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ คือ ประมาณปลายสัปดาห์หน้า JASIF จะประกาศงบปี 58 และจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย (Final Dividend) สำหรับปี 58 ออกมาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ม.ค.59 ซึ่งเราคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.20-0.21 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนสูงเป็น 2.4%-2.5% โดยที่มีสิทธิประโยชน์คือ นักลงทุนรายย่อยที่ได้รับเงินปันผลจะไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% แต่อย่างใด สำหรับปี 59 คาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลจะสูงเป็น 10% มากกว่า ปี 58 ซึ่งมีการจ่ายปันผลไม่เต็มปี (ตั้งแต่ 10 ก.พ. - 31 ธ.ค.58) ตามเวลาการจัดตั้งกองทุนฯ ปีแรกอีกทั้งการทยอยส่งมอบสินทรัพย์ประเภทโครงข่ายเพิ่มทำให้มีรายได้ค่าเช่ามากขึ้น
          * มีโอกาสได้เงินลดทุนอีก นอกจากนี้การที่ บริษัททริปเปิล ทรี บอร์ดแบนด์ (TTTB) ซึ่งเป็นผู้เช่าหลักได้จ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้ามา 816 ล้านบาท ก็สามารถนำมาจ่ายให้กับนักลงทุนในรูปแบบการลดทุนได้ ตามกำหนดการเดิม คือ ปี 58-461 ล้านบาท และปี 59-225 ล้านบาท และปี 60-130 ล้านบาท แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงการส่งเรื่องไปยังกรมสรรพากรเพื่อพิจารณา จึงล่าช้าแต่หากได้รับการอนุญาตแล้ว ก็จะจ่ายส่วนลดทุนออกมาเลย โดยไม่ต้องรอให้ ถึงวันจ่ายปันผลรอบใหม่ คาดว่าสำหรับงวดแรกเป็น 0.0838 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1%
          * การแยกส่วนธุรกิจมีความชัดเจน ทางสายธุรกิจอินเตอร์เน็ต บอร์ดแบนด์ JASIF ที่บริหารโครงข่ายการให้เช่านั้น เริ่มจาก JAS ถือหุ้นใน Acumen 100% และ Acumen ถือหุ้นใน TTTB 99.2% และ JAS ถือหุ้นใน JASIF 33.33%  โดย TTTB ก่อสร้างโครงข่ายใยแก้วนำแสง มาขายให้กับ JASIF แล้วกลับมาเป็นผู้เช่าหลัก สำหรับทางสายบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G ทาง JAS ถือหุ้นใน แจส โมบาย บอร์ดแบนด์ 100% แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ว่าเมื่อแจส โมบายฯ สร้างเสาโทรคมนาคมเพิ่มก็มีโอกาสจะมาขายให้กับ JASIF ได้
          * แนะนำซื้อ ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 10.42 บาท ด้วยวิธี DDM (Dividend Discount Model) ราคาหุ้นที่ปรับลงแรง กลับมามี Upside 23% ส่วนคาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปี 59 เป็น 10% (ไม่รวมส่วนลดทุน) ล่าสุด 30 พ.ย.58 บริษัทประกาศมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเป็น 55.8 พันล้านบาท หรือ 10.1502 บาท ดังนั้นสัดส่วน P/NAV เป็น 0.8 เท่า ถือว่าถูกเทียบกับ กลุ่มกองทุนสาธารณูปโภค (IFF) ที่ 0.9 เท่า เราเห็นว่าการลงทุนใน JASIF ยังปลอดภัยในช่วง 3 ปีแรก (ปี 58-60) เพราะ 1) JAS ต้องคงสัดส่วนการถือหุ้น 33.33% และ 2) ตามสัญญาเช่า TTTB เช่า 80% เป็นเวลา 11 ปี ส่วนอีก 20% TTTB ได้เข้าทำสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า 3 ปี แต่สามารถเจรจาต่ออายุได้ ด้านแนวโน้มอัตราการเติบโตรายได้ค่าเช่าจะสูงในปี 59-60 เพราะจะมีการส่งมอบโครงข่ายเพิ่มอีก 22.5% แต่หลังจากนั้นคาดว่าจะเติบโตใกล้อัตราเงินเฟ้อ