JAS นำทีมเด้งเร็วหลังXD

Published on 2015-03-16   By ข่าวหุ้น

เปิดโผ 5 หุ้นเด้งเร็วหลังขึ้น XD หุ้น PTG-JAS-DELTA-BCP-TOP แกร่ง ฟาก PTG ราคาเพิ่มเกิน 11% ด้าน JAS-DELTA เด้งทะลุ 7% ส่วนวันนี้โอกาสสุดท้ายซื้อ VGI รับหุ้นปันผลอัตรา 1:1

          จากการสำรวจกลุ่มหุ้นที่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หลังจากขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิได้ปันผล) โดยเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่อง มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีแนวโน้มทำผลการดำเนินงานงวดปี 2558 เติบโตได้ต่อเนื่อง มีทั้งหมด 5 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG 2.บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS 3.บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA 4.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP 5.บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP

          โดยหุ้น PTG ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD ปันผล 0.15 บาท ไปเมื่อวันที่ 9 มี.ค. พร้อมกับทำราคาปิดอยู่ที่ 7.80 บาท ขณะที่ล่าสุดวันที่ 13 มี.ค. หุ้น PTG สามารถทำราคาปิดได้ถึงระดับ 8.70 บาท เท่ากับปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 11.53% เมื่อเทียบราคาปิดในช่วงวันที่ขึ้น XD

          ขณะที่หุ้น JAS ถือเป็นหุ้นที่ทำราคาปรับเพิ่มขึ้นได้รวดเร็วเช่นกัน ช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา หุ้น JAS ผ่านการขึ้นเครื่องหมาย XD ไปทั้งหมด 2 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 5 มี.ค. ขึ้น XD ปันผล 1.50 บาท และทำราคาปิดวันนั้นที่ 6.95 บาท ต่อมาในวันที่ 11 มี.ค. ขึ้น XD ปันผล 0.15 บาท ทำราคาปิดอยู่ที่ 6.70 บาท

          อย่างไรก็ตาม ล่าสุดหุ้น JAS วันที่ 13 มี.ค. ทำราคาปิดอยู่ที่ 7.20 บาท เท่ากับปรับเพิ่มขึ้นไปแล้วถึง 7.4% เมื่อเทียบกับราคาปิดในวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD งวดวันที่ 11 มี.ค. ส่วนหุ้น DELTA ขึ้นเครื่องหมาย XD ปันผล 3 บาท เมื่อวันที่ 23 ก.พ. และทำราคาปิดที่ระดับ 68 บาท โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ทำราคาปิดที่ 73 บาท เท่ากับปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 7.35%

          สำหรับหุ้น BCP ขึ้นเครื่องหมาย XD ปันผล 0.40 บาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค. และทำราคาปิดที่ 33.50 บาท ส่วนวันที่ 13 มี.ค. ทำราคาปิดที่ 34.25 บาท เท่ากับปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 2.23% ส่วนหุ้น TOP ประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD ปันผล 0.60 บาท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ทำราคาปิดที่ 51.50 บาท โดยล่าสุดวันที่ 13 มี.ค. หุ้น TOP ทำราคาปิดที่ 52.50 บาท เท่ากับปรับเพิ่มขึ้นไปแล้ว 1.94%

          *ซื้อ VGI วันนี้รับหุ้นปันผล

          จากกรณีในวันนี้จะถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่นักลงทุนจะได้ซื้อหุ้น บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เพื่อรับหุ้นปันผล จัดสรรอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล พร้อมกับปันผลเป็นเงินสดอีก 0.011111111111 บาทต่อหุ้น เนื่องจากมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 17 มี.ค.นี้

          นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VGI เปิดเผยว่า VGI ถือเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจจำนวนมาก แต่ด้วยสภาพคล่องหุ้นที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น บริษัทจึงจ่ายปันผลเป็นหุ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและรองรับความต้องการของนักลงทุนที่มองเห็นถึงโอกาสเติบโตของบริษัทในอนาคต

          ส่วนนายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 668.31 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 133.47 ล้านบาท เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณาปีนี้จะกลับมาอยู่ในระดับปกติ

          โดยเฉพาะเม็ดเงินผ่านสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยจะมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น ซึ่งบริษัทจะรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 20% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) จะรักษาไว้ที่ระดับ 50% เนื่องจากบริษัทจะคัดเลือกงานที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้นและบริหารค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ

          สำหรับกรณี  VGI เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 24.89% จะเป็นผลดีต่อบริษัท เพราะทำให้บริษัทแบ่งสัดส่วนการขยายพื้นที่สื่อโฆษณาได้อย่างชัดเจน โดย MACO จะเน้นขยายสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย (Outdoor) ส่วน VGI จะเน้นขยายสื่อโฆษณาในสถานีรถไฟฟ้า BTS และไฮเปอร์มาร์เก็ต

          อีกทั้งยังเป็นการ Synergy ทางธุรกิจทั้งสองฝ่าย โดยอนาคตบริษัทมีแผนขยายสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดมากขึ้นและจะเน้นทำเลตามหัวเมืองใหญ่ คาดว่าสัดส่วนรายได้จากจะมีการเติบโตคู่กันไป จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณ 70% และอีก 30% อยู่ในต่างจังหวัด

          ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตร 2-3 ราย เพื่อเจาะตลาดสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยประเทศแรกๆ ที่จะได้เห็นคือมาเลเซียและพม่า ซึ่งรูปแบบจะเป็นลักษณะการเข้าไปถือหุ้นหรืออาจจะเป็นพันธมิตรทางการค้า คาดว่าจะเห็นข้อสรุปที่ชัดเจนได้ 1 ดีลในปีนี้