คอลัมน์ Mission CEO ภารกิจพิชิตเป้า

Published on 2015-02-23   By กรุงเทพธุรกิจ

[email protected]

          Mission CEO ฉบับ 557 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ -1 มีนาคม 2558

          ตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 58 อยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท รายได้หลักจะมาจากอิชิตัน และเครื่องดื่มเย็นเย็น ขณะที่ "ไบเล่" คาดว่าจะทำรายได้ราว 600 ล้านบาท จะบริหารกำลังการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น เป็น 1.2 พันล้านขวด จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 1 พันล้านขวด และ 200 ล้านกล่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริหารต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้ และเพื่อเป็นการรองรับการรับจ้างผลิตเครื่องดื่ม (OEM) ให้มีความหลากหลาย รวมทั้งการเพิ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้" ไบเล่" เข้ามาในพอร์ตการผลิต เป็นการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ รวมไปถึงการจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งของภูมิภาค และระดับโลก เพื่อเปิดตลาดในอินโดนีเซีย

          ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่(TSE) กล่าวว่า ได้จัดตั้งบริษัทย่อย TSE Group International Pte Ltd ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วยทุนจดทะเบียน 50,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของการรองรับแผนงานขยายธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบโซล่าร์ฟาร์มในต่างประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาโอกาสการเข้าลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ในเร็วๆ นี้โดยมองโอกาสและสนใจเข้าไปลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพและความพร้อมทางด้านเงินทุนและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ซึ่งหากสามารถผลักดันให้เกิดโครงการได้ตามแผนที่วางไว้จะเป็นปัจจัยบวกที่ดีต่อการผลักดันผลการดำเนินงานให้สามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด

          พิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 58 เติบโต 20-25 เปอร์เซ็นต์  จากปี 57 ที่คาดรายได้จะอยู่ที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ตราว 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือจะเป็นรายได้จากบริษัทอื่นในกลุ่ม JAS ในปีนี้บริษัทมีแผนขยายโครงข่าย บรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมครบทั้ง 7,600 ตำบล ทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโครงข่ายบรอดแบรนด์ อินเทอร์เน็ต ประมาณ 3,800 ตำบล โดยตั้งงบลงทุนรวมราว 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ขยายโครงข่ายบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ตเพื่อรองรับความต้องการผู้ใช้งานที่จะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หลังจาก การขยายโครงข่ายจะทำให้มีจำนวนลูกค้าเพิ่มอีก 4 แสนราย มาที่ 2 ล้านราย จากสิ้นปี 57 มีจำนวน ลูกค้าอยู่ที่ 1.6 ล้านราย

          นลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้า รายได้-กำไรปีนี้เติบโต 15-20 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน โดยมาจากการเติบโตในทุกธุรกิจในกลุ่มไอร่า ทั้งมาจากธุรกิจ โบรกเกอร์ และ บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟูล จำกัด ประกอบกับ บริษัทฯ มีการปรับสัดส่วนรายได้ของกลุ่มให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยสิ้นปีนี้ 50 เปอร์เซ็นต์ จะมาจากธุรกิจโบรกเกอร์, 40 เปอร์เซ็นต์ จะมาจากธุรกิจการโอน และรับโอนสิทธิเรียกร้องภายในประเทศ (แฟคตอริ่ง) และสัดส่วน 10 เปอร์เซ็นต์ จะมาจากธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจแบบครบวงจรในประเทศสิงโปร์ และธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ยอมรับว่าปีก่อน รายได้-กำไรปี 57 มีโอกาสต่ำกว่าปี 56 ที่ทำได้ 792.03 ล้านบาท และ 90.02 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในประเทศช่วงครึ่งปีแรก

          ทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีวีไดเร็ค (TVD) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโตราว 15 เปอร์เซ็นต์ หรือ 2,888 ล้านบาท จากปี 57 น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 2,500 ล้านบาท โดยยังคงเน้นการทำธุรกิจแบบ Multiscreen ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ประกอบด้วย Direct Shopping, Online Shopping และ Retail Shopping เพื่อให้สอดคล้องกับ พฤติกรรมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุค Social Network ซึ่งคาดหวังจะมีลูกค้าเพิ่มอีกในปีนี้ ราว 5 แสนรายแตะ 5 ล้านรายในปี 60 จากปัจจุบันมีจำนวน ลูกค้าอยู่ 3.6 ล้านราย เตรียมงบลงทุนไว้จำนวน 80 ล้านบาท ใช้ในเรื่องของการพัฒนาช่องทางการขายผ่าน Online และลงทุนในช่องทางการขายผ่าน ทีวีในระบบ HD ขณะเดียวกันบริษัทฯมีแผนออก Line แอพพลิเคชั่น ใหม่ โดยจะเห็นได้ในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ เพื่อขยายช่องทางการขายให้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่

          สมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ราว 7.5 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ได้ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือรับรู้ในปีถัดไป นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานก่อสร้างถนนของกรุงเทพมหานคร(กทม.) มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนที่จะประมูลงานใหม่มูลค่า 2-3 หมื่นล้านบาท เช่น การเข้าร่วม ประมูลงานรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เป็นผู้รับผิดชอบ โดยบริษัทจะร่วมกับ บริษัท China Railway No.3 Engineering Group Co.,Ltd. โดยมูลค่างานประมูลค่างานที่จะเข้าร่วมประมูลยังไม่ได้รวมกับงานจากบมจ.เหมืองแร่โปแตชอาเซียน ซึ่งบริษัทคาดหวังที่จะได้รับงานใหม่เพิ่ม เข้ามาในปีนี้ เพื่อสนับสนุนต่อผลการดำเนินงานทั้งปีของบริษัท

          ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 58 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อน โดยบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นปี 57 ประมาณ 8.8 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ราว 44 เปอร์เซ็นต์ ยังตั้งเป้ารายได้ใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 58-62) แตะ 2 หมื่นล้านบาทตามแผนยุทธศาสตร์ที่บริษัทได้มีการวางไว้เพื่อสร้างการเติบโตให้กับรายได้ของบริษัทอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดบ้านเดี่ยวในระดับพรีเมียม และพร้อมที่จะรุกเข้าไปยังตลาดบ้านระดับราคาใหม่ๆ ที่บริษัทยังไม่เคยเข้าไป นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ในปี 62 เป็น 15 เปอร์เซ็นต์ จากคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ จะอยู่ที่ราว 12 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งบริษัทจะเน้นการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น