JAS ต่างชาติไล่เก็บ JASIF บุ๊กกำไรพิเศษกองทุน Q1

Published on 2015-02-17   By ทันหุ้น

ทันหุ้น - JAS ลั่นปี 2558 รายได้โต 20-25% แถมไตรมาส 1/2558 บุ๊กกำไรพิเศษจาก JASIF เข้าเทรด เชื่อนักลงทุนต่างชาติทยอยเข้าเก็บ JASIF ในตลาดเพียบ ผู้บริหาร "พิชญ์ โพธารามิก" ทุ่มงบ 6-7 พันล้านบาท ขยายโครงข่ายบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ หนุนลูกค้าบรอดแบนด์แตะ 2 ล้านราย ส่วนปี 2557 ผลงานเข้าเป้ารายได้เติบโต 15%

          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า ราคาหน่วยลงทุน กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ หรือ SET วานนี้ (16 ก.พ. 58) โดยเปิดเทรดที่ 10.00 บาท เท่ากับราคาจองซื้อที่ 10.00 บาทต่อหน่วย

          โดยปิดตลาดช่วงเช้าราคาได้ปรับตัวลดลงจากราคาจองนั้น เป็นเรื่องปกติของราคาหน่วยลงทุนที่เข้าเทรดวันแรก แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามา เนื่องจากที่ไปโรดโชว์พบว่า นักลงทุนต่างชาติสนใจที่จะจองซื้อนอกเหนือจากที่มีการจัดสรรให้ ทำให้เชื่อว่าคนที่พลาดในการจองซื้อจะกลับเข้ามาซื้อในตลาด

          นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวจากที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูงถึง 9% ซึ่งถือว่าดีกว่าการฝากเงินกับธนาคาร ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะมีการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน JASIF ในไตรมาส 1/2558 ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะบันทึกจำนวนเท่าไหร่ หลังจากนั้นจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น

          ทั้งนี้ JASIF ลงทุนในกรรมสิทธิ์เส้นใยแก้วนำแสงของ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB จำนวน 980,000 คอร์กิโลเมตร (ส่งมอบ 800,000 คอร์กิโลเมตร ในวันซื้อขายเสร็จสิ้น) และอีก 180,000 คอร์กิโลเมตร ภายใน 2 ปี   ซึ่ง JASIF จัดหาผลประโยชน์ในทรัพย์สิน โดยให้ TTTBB เช่าเส้นใยแก้วนำแสง 80% ของเส้นใยแก้วนำแสงทั้งหมด ตามสัญญาเช่าหลักเป็นระยะเวลา 11 ปี(สิ้นสุดวันที่ 22 ก.พ. 2569) และประกันรายได้ค่าเช่าเส้นใยแก้วนำแสงส่วนที่เหลืออีก 20% ตามสัญญาประกันรายได้ค่าเช่า มีระยะเวลาการเช่า 3 ปี (ต่ออายุสัญญาได้อีกครั้ง ครั้งละ 3 ปี จนกว่าจะครบอายุสัญญาเช่าหลัก)

          ส่วนปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 25% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น จากการลงทุนขยายโครงข่ายบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตให้มากขึ้นครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย

          โดยตั้งเป้าลูกค้าสิ้นปี 2558 อยู่ที่ 2 ล้านเลขหมาย จากปัจจุบันอยู่ 1.6 ล้านเลขหมาย โดยคาดว่าลูกค้าจะเข้ามาใช้บริการทางไฟเบอร์ออฟติกเพิ่มเป็น 10% จากปี 2557 ที่อยู่ 5% จากการที่บริษัทจะมีการขยายโครงข่ายให้มากขึ้น  โดยบริษัทตั้งงบลงทุนปี 2558 จำนวน 6-7 พันล้านบาท เพื่อลงทุนขยายโครงข่ายบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดย 10-20% จะใช้ลงทุนทางด้านไฟเบอร์ออฟติก

          นายพิชญ์ กล่าวเสริมว่า ส่วนในปี 2557 ยังมั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่เติบโต 15% จากปี 2556 ที่ทำได้ 11,260.21 ล้านบาท

          "หากปี 2558 ไม่นับรายได้จากการขายกองทุนเราก็จะมีการเติบโตในระดับที่ดี เพราะเราตั้งเป้าหมายขยายโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเราจะมีเงินลงทุนจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน ซึ่งในปี 2558 เชื่อว่ารายได้และ EBITDA Margin จะเติบโตจากปีก่อนอย่างแน่นอน" นายพิชญ์ กล่าว