คอลัมน์ Mission CEO ภารกิจพิชิตเป้า

Published on 2015-02-09   By กรุงเทพธุรกิจ

          [email protected]

Mission CEO ฉบับ 555 วันที่ 9-15 กุมภาพันธ์ 2558

          เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า ในปี 2557 มีปริมาณการขายปิโตรเลียมเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 321,886 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 ที่มีปริมาณการขายปิโตรเลียมที่ 292,629 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการเริ่มการผลิตของโครงการ ซอติก้า การผลิตเต็มปีของ โครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย  รวมถึงการเข้าซื้อโครงการในกิจการบริษัท Hess Thailand ในปีที่ผ่านมา โดยในส่วนของราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 63.38 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งปรับตัวลดลงจากปีที่แล้วที่ 65.58 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลง 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสะท้อนราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงในไตรมาส 4

          กานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ ปีนี้ประมาณ 4.9 แสนล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อยที่ทำได้ 4.8 แสนล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่เติบโตไม่มาก เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปรับตัวลดลง 10-20 เปอร์เซ็นต์ โดยผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมีสัดส่วนรายได้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ฉุดรายได้รวมลดลง อย่างไรก็ตาม ยังคาดหวังว่ากำไรสุทธิปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 3.3 หมื่นล้านบาท โดยพยายามรักษาต้นทุนเพื่อให้มีอัตรากำไรอยู่ในระดับที่จะสามารถสร้างกำไรให้ได้มากกว่าปีก่อน ยอมรับว่าในไตรมาส 1/58 มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ แต่เชื่อว่าจะน้อยกว่าการขาดทุนสต็อกน้ำมันในไตรมาส 4/57 ที่ 2.9 พันล้านบาท โดยประเมินว่าน่าจะอยู่ในระดับกว่า 1,000 ล้านบาท และลดสัดส่วนการส่งออกปูนซิเมนต์เหลือ 4 ล้านตัน จากปีก่อน 4.4 ล้านตัน เพื่อรองรับดีมานด์ในประเทศ

          ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายและรายได้ปีนี้อยู่ที่ 4.7 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปี 2557 ประมาณ 20.2 เปอร์เซ็นต์ และ 11.9 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ซึ่งเป็นการเติบโตตามสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น และจะมีการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 70-75 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 5.5-6.1 หมื่นล้านบาท โดยได้เตรียมงบซื้อที่ดินไว้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท และบริษัทฯ ยังมีรายได้จากโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีก 177 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 78,536 ล้านบาท ประเมินภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ในเขตกทม. และปริมณฑล คาดจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตจากปี 2557 ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปัจจัยบวกคือ การลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ที่เริ่มมีความชัดเจน โดยเฉพาะเพิ่มส่วนต่อขยายของแนวรถไฟฟ้าไปย่านชานเมือง

          พิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เปิดเผยว่า บริษัทจะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตจัสมิน (JASIF) มูลค่า 5.5-5.77 หมื่นล้านบาท เข้ามาในไตรมาส 1/58 พร้อมทั้งเตรียมเสนอที่ประชุมบอร์ด หลังจากการขายกองทุนดังกล่าวเสร็จสิ้น เพื่อนำกำไรส่วนหนึ่งปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น ส่วนจะจ่ายในอัตราเท่าไหร่ต้องรอหลังจากการขายกอง JASIF เสร็จสิ้นก่อน ขณะที่มั่นใจว่าจะสามารถขายหน่วยลงทุน JASIF ได้หมด และอาจจะมีความต้องการมากกว่าจำนวนที่เสนอขาย หลังจากที่ได้มีการโรดโชว์ให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะเป็น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตรายแรกของประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะรายได้ค่าเช่าซึ่งถือเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอและยังมีโอกาสเติบโตได้อีกจากความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น

          ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า กระบวนการขายหุ้นบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (SPRC) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน โดยเบื้องต้นปตท.มีแผนจะขายหุ้นที่ถือใน SPRC ออกมา 30 เปอร์เซ็นต์ จากที่ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 36 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจุบันได้มีการคัดเลือกที่ปรึกษาเพื่อนำหุ้น SPRC เข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ฯ และเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) แล้ว โดยเป็นที่ปรึกษาทั้งในและต่างประเทศราว 4-5 ราย ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้เห็นชอบ(ร่าง) สัญญาแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) "สัญญาจัดสร้างและประกอบกิจการโรงกลั่นปิโตรเลียม" ระหว่างกระทรวงพลังงานกับ SPRC เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการแข่งขันของธุรกิจการกลั่นน้ำมันโดยเสรี

          โสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) เปิดเผยว่า ตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิของทั้งกลุ่มในปีนี้จะเติบโตกว่าเท่าตัว โดยจะเน้นรุกขยายกิจการหลักทั้งสองส่วน ทั้งธุรกิจซื้อขายทองคำ และธุรกิจโบรกเกอร์ โดยได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของธุรกิจทองคำในปีนี้ 60,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 30,000 ล้านบาท โดยจะเน้นรุกตลาดต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีศัภยภาพในการซื้อทองคำค่อนข้างมาก โดยคาดหวังว่าจะมีสัดส่วนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนที่ยังไม่มีส่วนของลูกค้าต่างจังหวัดมากนัก ขณะที่ธุรกิจโบรกเกอร์ก็จะ มีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มฐานลูกค้า รวมถึงพัฒนาศักยภาพการบริการ ขณะนี้ อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจอื่น โดยมีทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจบริการ และธุรกิจอาหาร คาดว่าจะมีความชัดเจนกลางปีนี้ โดยมูลค่าการลงทุนจะไม่เกินดีลละ 500 ล้านบาท

          กิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แมงป่อง 1989 (MPG)กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจไปสู่รีเทลชอป เกี่ยวกับความงามและเครื่องสำอาง โดยเตรียมเปิดร้านสาขาภายใต้แบรนด์สตาร์ดัส (Stardust) เพื่อขายเครื่องสำอางแบรนด์ดังจากเกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรปโดยจะใช้ศูนย์การค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นที่ตั้งร้านสตาร์ดัส คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท โดยสาขาแรกของสตาร์ดัส จะเปิดที่ห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิตในช่วงต้นเดือน ก.พ.และจะขยายให้ครบ 10 สาขาภายในปีนี้ สำหรับธุรกิจไลฟ์สไตล์เทคโนโลยีภายใต้ แบรนด์กิชแมน (GIZMAN) มีแผนจะเปิดและปรับพื้นที่ของแมงป่องสาขาปัจจุบันให้เป็น GIZMAN รวม 15 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 950 ล้านบาท โตจากปี 2557 ที่คาดว่ารายได้จะมากกว่า 500 ล้านบาท