JAS มูลค่าหุ้นเพิ่ม2บาท กำไรพิเศษ2.7หมื่นล้าน ผู้ถือหุ้นเฮ! รับเงินปันผลพิเศษ 1.50 บาท

Published on 2015-02-05   By ข่าวหุ้น

กำไรพิเศษ2.7หมื่นล้าน

          ผู้ถือหุ้นเฮ! รับเงินปันผลพิเศษ 1.50 บาท

          JAS เตรียมบันทึกกำไรพิเศษไตรมาส 1/58 กว่า 27,000 ล้านบาท ดันมูลค่าหุ้นเพิ่มอีก 2 บาท ส่วนผู้ถือหุ้น JAS มีเฮลุ้นรับเงินปันผลพิเศษ 1.50 บาท หลังขาย JASIF 5,500 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 10 บาท มูลค่า 55,000 ล้านบาทหมดเกลี้ยง เตรียมเข้าเทรด 16 ก.พ.นี้ โบรกเกอร์แนะซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท

          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า การขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีเรียบร้อยแล้ว โดยมีมูลค่ากองทุน 55,000 ล้านบาท เท่ากับ 5,500 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 10 บาท

          ขณะเดียวกันบริษัทซื้อกองทุนรวม JASIF จำนวน 1 ใน 3 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด คิดเป็น 1,833.1 ล้านหน่วย เท่ากับ 18,331 ล้านบาท โดยกองทุนรวม JASIF จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันแรก วันที่ 16 ก.พ. 58

          โดยนายพิชญ์ ระบุก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะบันทึกกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินเข้ากองทุนฯช่วงไตรมาส 1/58 พร้อมทั้งเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) หลังจากการขายกองทุนดังกล่าวเสร็จสิ้น เพื่อนำกำไรส่วนหนึ่งปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ เงินที่ได้มาจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯ จะนำมาลงทุนเพิ่ม คืนเงินกู้ และจ่ายปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้น JAS โดยปีนี้บริษัทใช้เงินลงทุน 5,000-6,000 ล้านบาท ในการขยายโครงข่ายและ Node ทำให้ลูกค้าบริษัทเพิ่มขึ้น

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประเด็นดังกล่าวจะทำให้งบไตรมาส 1/58 JAS มีการบันทึกกำไรพิเศษทันที 27,000 ล้านบาท นั่นหมายถึงงบการเงินไตรมาส 1/58 เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมากเมื่อเทียบไตรมาส 1/57 ที่มีกำไร 851.75 ล้านบาท และเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับหุ้น JAS ประมาณ 2 บาท พร้อมกันนี้ไตรมาส 2/58 JAS จะมีการบันทึกเงินปันผลจาก JASIF อีกด้วย

          สำหรับผู้ถือหุ้น JAS จะได้ประโยชน์ 2 ด้านคือ 1) การขายสินทรัพย์ ทำให้ลดความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง และได้เงินสดมาใช้ 2) การจดทะเบียนกองทุน IFF ทำให้ JAS สามารถจ่ายเงินปันผลพิเศษประมาณ 1.00-1.50 บาท รวมถึงการขยายเครือข่าย Broadband และทำให้มูลค่าเหมาะสมหุ้น JAS เพิ่มขึ้นอีก 1.40 บาท

          โดยกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน JAS มีแผนให้เช่าสินทรัพย์ 80% ของ FOC เป็นระยะเวลา 11 ปี (สิ้นสุด ก.พ. 70) ที่ราคา 425 บาท/core/เดือน และ 750 บาท/core/เดือน และการปรับค่าเช่าจะเป็นไปตามอัตราเงินเฟ้อ (CPI) หากใช้อัตราคิดลด 9% จะได้มูลค่าของกองทุนราว 57,000 ล้านบาท

          สำหรับทรัพย์สินที่กองทุนฯ เข้าลงทุนครั้งแรก ได้แก่ กรรมสิทธิ์ในเส้นใยแก้วนำแสง 980,000 คอร์กิโลเมตร ประกอบด้วย เส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณไม่น้อยกว่า 800,000 คอร์กิโลเมตร ที่บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB ซึ่งเป็นบริษัทย่อย JAS จะส่งมอบให้ JASIF ณ วันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น และเส้นใยแก้วนำแสงจำนวนรวมประมาณ 180,000 คอร์กิโลเมตร ที่ TTTBB จะทยอยส่งมอบให้ JASIF ภายใน 2 ปี นับจากวันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น ปีละ 90,000 คอร์กิโลเมตร

          ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า JAS จะบันทึกกำไรพิเศษ 27,800 ล้านบาท โดยบันทึกปีนี้ 80% ที่เหลืออีก 20% ทยอยบันทึกเมื่อส่งมอบสินทรัพย์ปี 2559-2560 รวมถึงเงินสดเข้ามา 45,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งแบ่งปันผลพิเศษที่เหลือแบ่งใช้ 3 ส่วน คือ 1.ลงทุน JASIF 18,300 ล้านบาท 2.คืนเจ้าหนี้ 4,000 ล้านบาท 3.ขยายพื้นที่บริการ 10,000 ล้านบาท