JASIF เปิดขายกองทุนวันนี้ผลตอบแทนปีแรก8.6-9%

Published on 2015-01-28   By ข่าวหุ้น

ผลตอบแทนปีแรก8.6-9%

          วันนี้ "JASIF" เปิดจองหน่วยลงทุนวันแรก 5,500 ล้านหน่วย ราคา 10.50 บาท เริ่มซื้อขาย 16 ก.พ.นี้ ผลตอบแทนปีแรก 8.6-9% จ่อบุ๊ครายได้พิเศษ 2.78 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 1/58

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF มูลค่าประมาณ 55,000-57,750 ล้านบาท เสนอขายหน่วยลงทุนในวันที่ 28 ม.ค. 58 นี้เป็นวันแรก และเสนอขายถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 3 ก.พ. 2558 จำนวน 5,500 ล้านหน่วย โดยขายให้ผู้ลงทุนในประเทศจำนวน 3,300 ล้านหน่วย แบ่งเป็นผู้ลงทุนทั่วไปจำนวน 806 ล้านหน่วย สถาบันจำนวน 660 ล้านหน่วย และบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS จำนวน 1,833.15 ล้านหน่วย ขณะที่ขายให้นักลงทุนต่างประเทศจำนวน 2,200 ล้านหน่วย

          สำหรับช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นระหว่าง 10-10.50 บาทต่อหน่วย ส่วนราคาเสนอขายสุดท้าย ซึ่งกำหนดโดยวิธีการ Book Building คาดว่าจะมีการกำหนด และประกาศให้ผู้จองซื้อทราบภายในวันที่ 4 ก.พ.นี้ โดยผู้จองซื้อทั่วไปจะต้องชำระค่าจองซื้อครั้งเดียวเต็มจำนวนที่จองซื้อในราคา 10.50 บาทต่อหน่วย ณ วันจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 หน่วย และเพิ่มเป็นจำนวนทวีคูณของ 100 หน่วย

          โดยหากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่า 10.50 บาทต่อหน่วย จะคืนเงินให้ผู้จองซื้อภายใน 14 วัน และคาดว่าจะประกาศผลการจัดสรรหน่วยลงทุนได้ภายในวันที่ 6 ก.พ.นี้ และสามารถเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 16 ก.พ. 2558

          ทั้งนี้ ผู้จองซื้อทั่วไปสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนได้ที่สำนักงานใหญ่และสาขาของธนาคารผู้เป็นตัวแทนสนับสนุนการขาย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

          สำหรับทรัพย์สินที่กองทุนจะเข้าลงทุนครั้งแรก ได้แก่ กรรมสิทธิ์ในเส้นใยแก้วนำแสง 980,000 คอร์กิโลเมตร ประกอบด้วยเส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณไม่น้อยกว่า 800,000 คอร์กิโลเมตร ที่บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JAS จะส่งมอบให้ JASIF ณ วันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น และเส้นใยแก้วนำแสงจำนวนรวมประมาณ 180,000 คอร์กิโลเมตรที่ TTTBB จะทยอยส่งมอบให้ JASIF ภายใน 2 ปีนับจากวันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น ปีละ 90,000 คอร์กิโลเมตร

          ขณะที่เงินที่นักลงทุนจะได้รับในปีแรก หรือในปี 2558 ตามที่ปรากฏอยู่ในหนังสือชี้ชวนจะอยู่ที่ประมาณ 8.6-9.0% โดยแบ่งเป็นเงินปันผล 7.8-8.2% และการจ่ายลดทุน 0.8% เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากค่าเช่ารับล่วงหน้า โดยการจ่ายลดทุนดังกล่าวจะเกิดเฉพาะ 3 ปีแรกเท่านั้น

          บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า JAS จะบันทึกกำไรพิเศษ 27,800 ล้านบาท โดยบันทึกปีนี้ 80% และที่เหลืออีก 20% ทยอยบันทึกเมื่อส่งมอบสินทรัพย์ในปี 2559-2560 รวมถึงได้เงินสดเข้ามา 45,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งคาดว่าจะแบ่งไปจ่ายปันผลพิเศษ ที่เหลือแบ่งใช้ 3 ส่วน คือ 1. ลงทุน JASIF 18,300 ล้านบาท 2.คืนเจ้าหนี้ 4,000 ล้านบาท และ 3.ขยายพื้นที่บริการ 10,000 ล้านบาท

          บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประเมินว่า JASIF จะจดทะเบียนเสร็จสิ้นในช่วงสิ้นเดือนก.พ.นี้ และสำหรับผู้ถือหุ้นของ JAS จะได้ประโยชน์ใน 2 ด้าน คือ 1.การขายสินทรัพย์ ทำให้ลดความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง และได้เงินสดมาใช้ 2.การจดทะเบียน JASIF จะทำให้ JAS สามารถจ่ายเงินปันผลพิเศษได้ราว 1-1.5 บาท/หุ้น รวมถึงการขยายเครือข่าย Broadband และจะทำให้มูลค่าที่เหมาะสมของ JAS เพิ่มขึ้นอีก 1.4 บาท/หุ้น หลัง IPO แนะนำ “ซื้อ” โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 9.8 บาท