จัสมิน กดปุ่ม 5.7หมื่นล. ทรูโกรท แจ่มให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 17.90%

Published on 2015-01-25   By ฐานเศรษฐกิจ

          กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน พร้อมระดมทุน 5.5-5.7 หมื่นล้าน เปิดขาย 28 ม.ค.- 3 ก.พ.นี้  คาดการณ์เงินปันผล 7.8 - 8.2% บลจ.บัวหลวงฯ ผู้บริหารกองทุนเปิดจุดเด่นกองทุนมีรายได้ค่าเช่าเติบโตสม่ำเสมอ  อุตฯอินเตอร์เน็ตในไทยเติบโตสูง  บมจ.จัสมินฯ จะถือหน่วยลงทุน 33.33% สมาคมบลจ.เปิดผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี กองอินฟราฯทรูโกรท สุดแจ่ม ทำได้สูงสุดถึง 17.90%

          นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)(บมจ.)(JAS) เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) หรือกองทุนจัสมิน มูลค่ากองทุนประมาณ 5.5 - 5.7 หมื่นล้านบาท เดินหน้าเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) ระหว่างวันที่ 28 มกราคม-3 กุมภาพันธ์นี้ หลังได้รับการอนุมัติจากสำนัก งานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้วเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558

          อย่างไรก็ตามจำนวนเงินทุนของโครงการจะขึ้นอยู่กับราคาเสนอขายสุดท้าย ซึ่งอยู่ในช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นจำนวนหน่วยลงทุน 5,500 ล้านหน่วย เสนอขายนักลงทุนในประเทศ 3,300 ล้านหน่วย เสนอขายนักลงทุนต่างประเทศ 2,200 ล้านหน่วย ช่วงราคาเสนอขายหน่วยลงทุนเบื้องต้นระหว่าง 10.00-10.50 บาทต่อหน่วยคาดว่าจะประกาศราคาสุดท้ายวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้

          สำหรับผลตอบแทนของกองทุนจัสมิน คาดว่าเงินที่นักลงทุนจะได้รับในปีแรก (ปี 2558) ตามที่ปรากฏอยู่ในหนังสือชี้ชวน จะอยู่ที่ประมาณ 8.6-9.0% โดยแบ่งเป็นเงินปันผล 7.8-8.2% และการจ่ายลดทุน 0.8% อันเนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินที่เกิดจากค่าเช่ารับล่วงหน้า

          นายพิชญ์กล่าวว่ากองทุนดังกล่าว ถือเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอด แบนด์อินเทอร์เน็ตรายแรกในประเทศไทยที่เน้นลงทุนในทรัพย์สินบรอดแบนด์อินเทอร์ เน็ตเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนให้เกิดการใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน

          โดยทรัพย์สินที่กองทุนจะเข้าลงทุนครั้งแรกได้แก่ กรรมสิทธิ์ในเส้นใยแก้วนำแสง 980,000 คอร์กิโลเมตร ประกอบด้วย (1) เส้นใยแก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณไม่น้อยกว่า 800,000 คอร์กิโลเมตร ที่บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.จัสมินจะส่งมอบให้กองทุนจัสมิน ณ วันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น และ (2) เส้นใย แก้วนำแสง จำนวนรวมประมาณ 180,000 คอร์กิโลเมตร ที่ TTTBB จะทยอยส่งมอบให้กองทุนภายใน 2 ปี นับจากวันซื้อขายเส้นใยแก้วนำแสงเสร็จสิ้น

          นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) บัวหลวง จำกัด ในฐานะผู้บริหารกองทุนจัสมิน กล่าวว่าจุดเด่นของกองทุนดังกล่าวมี 5 ข้อดังนี้ 1. เส้นใยแก้วนำแสงที่กองทุนจะลงทุน มีอายุการใช้งานมาแล้วเฉลี่ยเพียงประมาณ 4 ปี และมีโครงข่ายครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย

          2. รายได้ค่าเช่าของกองทุนเติบโตสม่ำเสมอ มีโอกาสจ่ายผลตอบแทนที่น่าสนใจให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน โดยรายได้ค่าเช่าของกองทุนจะเป็นไปตามสัญญาเช่าระหว่างกองทุนกับ TTTBB ซึ่งจะปรับขึ้นตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ แต่ไม่เกิน 3% ต่อปี

          3. อุตสาหกรรมบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตมีแนวโน้มการเติบโตสูง ทั้งนี้ประเทศไทยยังมีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์ เน็ตความเร็วสูงในระดับต่ำเพียง 24.6%  ในปี 2556  เทียบกับช่วง 70.3 - 99.6% ของประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี และสิงคโปร์ คาดว่าอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของไทยจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 35.4% และ 44.0% ในปี 2559 และปี 2562

          4. TTTBB ในฐานะผู้เช่าหลักมีผลการดำเนินงานที่เติบโต โดย TTTBB มีรายได้เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในประเทศไทย โดยมีรายได้ในปี 2556 เท่ากับ 9.6 พันล้านบาท หรือเติบโตสะสม 22.6% ต่อปี ในระหว่างปี 2554 ถึงปี 2556 และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2556 เท่ากับ 4.6 พันล้านบาท หรือเติบโตสะสม 27.2% ต่อปี ในระหว่างปี 2554 ถึงปี 2556

          5. บมจ.จัสมิน จะถือหน่วยลงทุน 33.33% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในปีที่ 1-3 และจะถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 19% ในปีที่ 4-6

          สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (สมาคมบลจ.)รายงานผลตอบแทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ย้อนหลัง ณ วันที่ 20 มกราคม 2558 พบว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 10 อันดับแรกที่สามารถสร้างผลตอบแทนรวมสูงสุด โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส (TLGF) บริหารโดยบลจ.กรุงไทยฯ ทำผลงานได้ดีที่สุด 7.26%

          อย่างไรก็ตามหากดูผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี พบว่ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม-ชนิดสะสมมูลค่าของบลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลฯ ทำผลตอบแทนสูงสุดถึง 17.90%

          สำหรับกองทุน 5 อันดับแรกที่สามารถทำผลตอบแทนสูงสุด คือ กองทุน

          รวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 7.26% กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท ผลตอบแทนที่ 5.61% กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริม ทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ ผลตอบ แทนที่ 5.45% กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ ฮอสพิทอลลิตี้ ผลตอบแทนที่ 4.71% กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท ผลตอบแทนที่ 4.59%

          นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.ไทยพาณิชย์ฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน มีมติประกาศจ่ายปันผลกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมทรูโกรท  ในรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2557 ในอัตรา 0.22 บาทต่อหน่วย โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลในไตรมาส 4 รวมทั้งสิ้น 1.28 พันล้านบาท

          ทั้งนี้อัตราจ่ายเงินปันผลในปี 2557 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี สม่ำเสมอ และกองทุนทรูโกรท ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม รวมทั้งเติบโตจากการนำทรัพย์สินออกให้เช่าแก่ผู้ประกอบการรายอื่นที่นอกเหนือจากกลุ่มทรูอีกด้วย จึงถือเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนในระยะยาว

          โดยล่าสุดคณะกรรมการลงทุนฯ มีมติเห็นชอบให้กองทุนทรูโกรท ลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานประเภทโทรคมนาคมที่อยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของกลุ่มบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น คาดว่าจะประกอบด้วย ใยแก้วนำแสง fiber optic cable หรือ FOC ความยาวไม่เกิน 8,000 กิโลเมตร และเสาโทรคมนาคม จำนวนประ มาณ 350 เสาเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาท