หุ้นเด่นหุ้นดับ SET50 ปี 2557

Published on 2015-01-07   By ข่าวหุ้น

          ภาพรวมของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในปี 2557 มีความผันผวนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีทั้งข่าวดีเข้ามาสนับสนุน และมีข่าวไม่ดีเข้ามากดดันตลาด ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลแล้วพากันเทขายหุ้นทำกำไรออกมา ส่งผลให้บรรยากาศของดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่า 1,500 จุด

          ขณะที่ดัชนี SET50 ประกอบด้วยหุ้นบลูชิพ 50 รายการ มีการประคับประครองให้ปรับตัวขึ้นได้กว่าเก่า จากเดิมวันที่ 27 ธ.ค. 56 อยู่ที่ 883.40 จุด ขณะที่วันที่ 30 ธ.ค. 57 อยู่ที่ 1,001.01 จุด เพิ่มขึ้น 117.61 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 13.32% แสดงว่า ระดับดังกล่าวยังดูดีเมื่อเทียบกับภาพรวมของดัชนีที่ปรับตัวลงหนักช่วงปลายปี

          อย่างไรก็ตามหุ้นในกลุ่ม SET50 ยังคงมีเสน่ห์ ถึงแม้ว่าจะถอดถอยไปบ้างก็ตาม เนื่องจากนักลงทุนหันไปเล่นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก เป็นช่วงลดความเสียงระยะสั้นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหุ้นบลูชิพคงเป็นหุ้นนำตลาดอยู่เสมอ จึงเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเร็วกว่ากลุ่มอื่น  เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และพร้อมจะมีการปันผล จึงเป็นเหตุให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ประครองอยู่

          ทั้งนี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” มีการรวบรวมข้อมูลหุ้นเด่นหุ้นดับในกลุ่ม SET50 เพื่อประมวลภาพกว้างๆ ให้นักลงทุนรู้ว่าหุ้นตัวไหนได้รับความน่าสนใจมากเป็นพิเศษ และหุ้นตัวไหนที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกไม่สบายใจ จนนำไปสู่การเทขายอย่างหนักออกมา โดยข้อมูลที่ได้ตอนนี้คือ มีหุ้นปรับตัวขึ้นมากกว่าครึ่ง โดยมากถึง 35 ตัว และมีหุ้นที่ปรับตัวลงเพียง 15 ตัว โดยดูได้ดังนี้

          -สำหรับหุ้นที่ปรับตัวขึ้นจะอยู่ระหว่าง (77.92-0.99%) อาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH, บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE

          ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY, ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO, บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA, บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIGC, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB

          บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW, บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC, บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI, บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH, บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH, บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW

          บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS, บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS, บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC

          ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH,  บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL และ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC

          -ส่วนหุ้นที่ปรับตัวลบลงจะอยู่ระหว่าง (0.52-85.36%) อาทิ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC, บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP, บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC, บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ROBINS, บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO, บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM

          บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP,  บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL, บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA, บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BGH

          หุ้นบลูชิพนักลงทุนยังให้ความน่าสนใจที่จะเข้าซื้อมากกว่าที่เทขายทำกำไรออกมา!!